Translate

วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กิจกรรมประจำหน่วยที่ 2 เรื่อง หลักการและวิธีการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ

1.กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร มีองค์ประกอบอะไรบ้าง

:1.กำหนดปัญหา/ความต้องการ
 2.รวบรวมการแก้ปัญหา
 3.สนองความต้องการ
 4.ปฏิบัติ
 5.ทดสอบ
 6.ปรับปรุง
 7.ประเมิน

2.จงให้คำนิยามของสิ่งต่อไปนี้ พร้อมทั้งแสดงให้เห็นว่าสิ่งเหล่านั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไรบ้าง

: 1)ข้อมูล

   2)สารสนเทศ

   3)ความรู้
3.1)ข้อมูล คือ สิ่งที่ได้มา เช่นการสัมภาษณ์ เป็นต้น
3.2)สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการต่างๆมาเเล้ว สามารถนำมาให้ได้ 
3.3)ความรู้ คือความรู้ที่มีอยู่

3.จงยกตัวอย่างจากประสบการณ์ของนักเรียนเองว่า ความรู้ช่วยในการตัดสินใจได้อย่างไร
:จากการซื้อข้าวกับขนม เราต้องคิดว่าอะรไมีประโยชน์เเละคุณค่ามากกว่ากัน เเละส่ิงไหนจะทำให้อิ่ม

4.การเก็บรักษาข้อมูลและสารสนเทศมีวิธีอย่างไร และเก็บไว้เพื่อประโยชน์อะไร
: 1.เก็บไว้เป็นหลักแหล่ง 2.สามารถค้นหาได้ง่าย 3.ง่ายต่อการจัดเจ็บ
การเก็บรักษาข้อมูลไว้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อๆไปในการหาข้อมูล

5.การเผยแพร่สารสนเทศมีวัตถุประสงค์อย่างไร และต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
: 1.คนที่เผยเเพร่ส่วนใหญ่จะมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนที่สนใจเข้ามาดู
  2.ต้องคำนึงถึงความถูกต้อง ให้แหล่งที่มา

6.จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เมื่อนักเรียนพบปัญหา ตามปกตินักเรียนจะหาคำตอบให้แก่ปัญหานั้นด้วยวิธีใดบ้าง จงบอกมา 3 วิธี พร้อมทั้งบอกว่าแต่ละวิธีมีข้อดุข้อเสียอย่างไร
: 1.เผชิญหน้ากับปัญหา - อาจทำให้เกิดการเสียหน้าขึ้น
  2.เตรียมรับมือ - อาจไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์
  3.ปล่อยวาง - การปล่อยวางมากเกินอาจทำให้ไม่สำเร็จ

7.ปัญหาง่ายๆในชีวิตประจำวัน จำเป็นต้องใช้วิธีแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบหรือไม่ เพราะเหตุใด
:ไม่จำเป็น เพราะทุกๆวันต้องมีอุปสรรค

8.การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบมีขั้นตอนและวิธีการอย่างไร จงอธิบาย และมีประโยน์อย่างไร
: 1.วางแผน 2.ดำเนินเรื่อง 3.แก้ไขปัญหา
 การที่เราวางแผนการทำงานก่อน อาจทำให้เราทำงานได้อย่างรสบรื่น

9.จงยกตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยในการแก้ปัญหาที่นักเรียนได้พบเห็นมาโดยเล่าเรื่องราวพอสังเขปและวิจารณ์ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตุใด
:งานในที่ฮาร์ดดิสก์หายสามารถกู้คืนได้ เป็นต้น

วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

กิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือชั้นม.2

                               
                             กิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในช่วงเวลา 3 วัน 2 คืน
ทำให้ข้าพเจ้าได้รับรู้อะไรหลายๆอย่าง ทั้งในเรื่องการอยู่ร่วมกัน ความสามัคคีในการทำงานต่างๆ
เเละความเข้าใจซึ่งกันเเละกัน การเข้าค่ายในครั้งนี้ดิฉันรู้สึกประทับใจมาก และได้รู้จักการใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีผู้ปกครองอยู่ด้วย และรู้จักการช่วยเหลือตนเอง
                             ภายในกิจกรรมลูกเสือนั้นดิฉันรู้สึกประทับใจกับฐานทุกฐานไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมรอบกองไฟ  และฐานต่างๆ ทำให้รู้ถึงคำว่า "มิตรภาพ น้ำใจ และความสามัคคี"

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

ชินจัง !


  • โนะฮาร่า ชินโนซึเกะ (อายุ 5 ปี) ตัวละครเอกของเรื่อง มีนิสัยเจ้าชู้ แก่แดด กะล่อน ชื่นชอบสาวสวยหุ่นดีคล้ายฮิโรชิ หาเรื่องป่วนได้ทุกเวลา มีปัญหาเรื่องออกเสียงและการใช้ภาษาอย่างผิดหลักไวยากรณ์ กระนั้นก็ยังพูดจาฉะฉาน ใช้คำพูดเกินเด็ก แทงใจดำคน อ่านใจคนเก่งมาก (ดังพบเห็นได้จากการไปห้างสรรพสินค้า ที่มักจะรู้เล่ห์กลของพนักงานขาย) แต่แท้จริงแล้วเป็นคนที่รักครอบครัวและคนรอบข้างอยู่ ที่สำคัญกว่านั้นสิ่งที่ไม่มีใครพูดถึง คือ ความมีน้ำใจของชินจัง มีความเฉลียวฉลาด กล้าหาญ คิดดีทำดี และสุดท้ายเป็นคนเห็นอกเห็นใจผู้อื่นแถมยังชอบช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนด้วย (ความสามารถพิเศษของชินจังคือ มีปฏิกิริยาตอบโต้กับสาวสวยรวดเร็ว ลอกเลียนแบบเก่ง ทำเครื่องแต่งกายเก่ง และเต้นเก่ง)

  • โนะฮาร่า ฮิมาวาริ (วัยคลาน) น้องสาวของชินโนซึเกะ มีนิสัยคล้ายมิซาเอะ ชื่นชอบเครื่องประดับและดาราหนุ่มหล่อ ชื่อของฮิมาวาริมาจากการเลือกชื่อโดยการใช้เครื่องบินกระดาษ โดยคำว่า ฮิมาวาริ มาจากชื่อห้องเรียนที่ชินโนซึเกะเรียนอยู่ (ฮิมาวาริ แปลว่า ดอกทานตะวัน)

  • โนะฮาร่า มิซาเอะ (อายุ 29 ปี) แม่ของชินโนซึเกะ ชอบใส่กางเกงในสีใส ขนหน้าแข้งดก ท้องลาย ทำให้ถูกชินโนะซึเกะนำไปล้อเสมอ นอกจากนั้นยังมีเรื่องอับอายขายหน้าเพื่อนบ้านจากการเล่นกับชินจังอยู่บ่อยๆ

  • โนะฮาร่า ฮิโรชิ (อายุ 35 ปี) พ่อของชินโนซึเกะ มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัท แอบเจ้าชู้และชอบกินเบียร์ เลี้ยงดูชินโนซึเกะแบบเพื่อน

  • เจ้าขาว(ชีโร่) สุนัขที่ถูกทิ้ง ซึ่งชินจังนำมาเลี้ยง แต่มักจะไม่ได้รับการเอาใจใส่จากชินจังเท่าที่ควร

  • ซากุราดะ เนเน่ มีชื่อเล่นว่า เนเน่จัง เป็นเด็กสาวในกลุ่มของชินโนซึเกะ มีนิสัยขี้โมโห แต่ซ่อนไว้โดยการทำนิสัยน่ารัก ชอบเล่นพ่อแม่ลูกเป็นชีวิตจิตใจ เนเน่จังจะต่อยตุ๊กตากระต่ายตัวเล็กเป็นการระบายอารมณ์ ซึ่งเลียนแบบมาจากคุณแม่ของเนเน่จังนั่นเอง

  • โทโอรุ คาซาม่า มีชื่อเล่นว่า คาซาม่าคุง เป็นเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ยุ่งอยู่กับธุรกิจ จึงทำให้คาซาม่าคุง มีนิสัยขี้โอ่ ชอบอวดร่ำอวดรวยในบางครั้ง และยังติดแม่มาก แต่เป็นเด็กเรียนดีของห้อง มักถูกชินโนซึเกะแซวเล่นและคอยปั่นป่วนตลอดเวลา เลยทำให้ไม่กล้าเปิดเผยความชอบส่วนตัวสักเท่าไหร่ เกรงจะถูกชินโนซึเกะเอาไปล้อ จริง ๆ แล้วเป็นเพื่อนที่สนิทกับชินจังมาก

  • ซาโต้ มาซาโอะ มีชื่อเล่นว่า มาซาโอะคุง เป็นเด็กผมโล้น มีนิสัยขี้ระแวง ขี้แย อ่อนแอ ถูกหลอกง่ายจึงมักถูกเพื่อนๆลากไปสร้างวีรกรรมเสมอๆ มักถูกเด็กประถมรังแกบ่อยครั้ง มีฉายาว่า หัวข้าวปั้น หลงรักไอย์จังอย่างโงหัวไม่ขึ้น

  • โบจัง เป็นเด็กที่พูดน้อยและตัวสูงที่สุดในกลุ่ม ลักษณะเด่นคือ มีน้ำมูกไหลย้อยตลอดเวลาและพูดแค่คำว่า "โบ" มีความลับอยู่ในเรื่องครอบครัว เพราะไม่ปรากฏพ่อแม่โบจังเลย (มีตอนที่กลุ่มชินจังพยายามตามสืบหาพ่อแม่ของโบจัง แต่ไม่สำเร็จ) มีความเก่งด้านศิลปะเชิงนามธรรม ได่รับรางวัลประกวดวาดภาพหลายครั้ง เช่น หัวใจของอีกา

  • ซึโอโตเมะ ไอย์ มีชื่อเล่นว่า ไอย์จัง เป็นคุณหนูลูกเศรษฐี เป็นทั้งเพื่อนและคู่กัดของเนเน่จัง ปรากฏตัวในหนังสือการ์ตูนเล่มที่ 16 มักจะชอบพูดจาเกี่ยวกับเรื่องฐานะ ซึ่งทำให้มีปัญหากับเนเน่จังอยู่บ่อยครั้ง หลงรักชินโนะซึเกะมาก มีความสามารถพิเศษในการจัดงานต่างๆ(โดยใช้บอดี้การ์ด) และทำให้เด็กผู้ชายคนอื่นๆตกหลุมรักได้ (ยกเว้นชินจัง)

ตัวละครรอง

  • โอฮาร่า นานาโกะ ชินโนซึเกะมักเรียกเธอว่า พี่นานาโกะ เป็นเพื่อนบ้านของชินโนะซึเกะ มีคุณพ่อเป็นนักเขียนนิยายชื่อดัง ซึ่งหวงลูกสาวมาก นานาโกะเป็นคนที่น่ารัก และเป็นคนที่ชินโนะซึเกะแอบชอบด้วย

  • ครูโยชินาง่า มิโดริ (อิชิซากะ มิโดริ) ครูประจำชั้นห้องฮิมาวาริ มักเหนื่อยหน่ายใจกับพฤติกรรมของชินโนซึเกะ แต่ภูมิใจที่ได้สอนเด็กๆจอมซนพวกนี้ ภายหลังได้แต่งงานกับ อิชิซากะ จุนอิจิ โดยมีพ่อสื่อแม่สื่อคือกลุ่มของชินโนซึเกะ แต่งงานที่โรงเรียนอนุบาล ท่ามกลางสายฝน ปัจจุบันมีลูกสาว ชื่อ โมโมะ

  • ครูมัตสึซากะ อุเมะ ครูประจำชั้นห้องกุหลาบ มีลักษณะคล้ายสาวสวยไฮโซ ชอบต่อล้อต่อเถียงกับโยชินนาง่า บ่อยครั้ง มีจุดอ่อนเรื่องหาคนรักไม่ได้(แม้ว่าจะมีคนรักอยู่แล้วก็ตาม)และเรื่องการเป็นสาวโสด กำลังคอยหาดูใจกับหมอเกียวดะ โทคุโร่ ซึ่งตอนนี้ไปทำวิจัยขุดซากฟอสซิลไดโนเสาร์อยู่ต่างประเทศ

  • ครูอาเงโอะ มาซึมิ ครูผู้มี2บุคลิก โดยเมื่อใส่แว่นจะมีท่าทางสงบเสงี่ยม เรียบร้อยและไม่กล้าแสดงออก แต่เมื่อถอดแว่นออกจะเปลี่ยนเป็นคนละคน เก่งทางด้านคอมพิวเตอร์ แอบทำเว็บไดอารี่เป็นของตนเองแต่กลุ้มใจที่ไม่มีใครเข้ามาดูเลยสักคนเนื่องจากไม่กล้าบอกว่าตนเองมีเว็บไซด์

  • ครูใหญ่ ทาคาคูระ บุนตะ ครูใหญ่แห่งโรงเรียนอนุบาลฟุตาบะ มีหน้าตาคล้ายนักเลงยากูซ่าระดับหัวหน้าแก๊งค์แต่จริงๆแล้วเป็นคนใจดี

  • คุณนาย ทาคาคูระ ภรรยาของคุณครูใหญ่

  • เคย์โกะ เป็นเพื่อนสนิทของมิซาเอะ มีสามีอายุน้อยกว่า ซึ่งชินจังมักจะนำเรื่องนี้ไปเล่าเพื่อนบ้านของน้าเคย์โกะ ให้อับอายเป็นประจำ มีลูกชาย 1 คน

 แหล่งที่มาข้อมูล :http://pirun.ku.ac.th/~b5104388/p3.html

วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2556

โรงเรียนของเรา>>ตากพิทยาคม



ประวัติความเป็นมาของโรงเรียนตากพิทยาคม   
           ประวัติโดยย่อของโรงเรียนตากพิทยาคม สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2443 เป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาแห่งแรกของจังหวัดตาก ใช้ชื่อว่า "โรงเรียนวัดสีตลาราม" บริเวณที่ก่อตั้งครั้งแรกอยู่ภายในบริเวณวัดสีตลาราม (วันน้ำหัก) ตำบลระแหง อำเภอเมือง จังหวัดตาก เปิดทำการสอนแบบสหศึกษา เมื่อวันที่ 1 พฤศิจกายน 2443 จำนวน 6 ห้องเรียน ซึ่งได้มีการพัฒนาด้านต่าง ๆ มาจนถึงปัจจุบัน

โรงเรียนตากพิทยาคมปัจจุบัน
         1. ชื่อสถานศึกษาโรงเรียนตากพิทยาคม  สำกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต38 
              ตั้งอยู่เลขที่  12 ถนนพหลโยธิน  ตำบลระแหง  อำเภอเมือง  จังหวัดตาก  63000
              โทรศัพท์  055 – 511143
              โทรสาร    055 – 540248
              E – mail    mytakpit@hotmail.com
              Website     www.tps.ac.th
        2.  เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธนมศึกษาปีที่ 6
        3.  มีเขตพื้นที่บริการ 6 ตำบล ได้แก่  ตำบลระแหง  ตำบลน้ำรึม  ตำนลแม่ท้อ  ตำบลไม้งาม  ตำบลหนองหลวง  ตำบลหนองบัวใต้

อาณาเขตติดต่อ
  ทิศเหนือ          ติดกับ  ถนนท่าเรือ
  ทิศใต้               ติดกับ  ถนนเทศบาล 6
  ทิศตะวันออก    ติดกับ  ถนนเทศบาล 7
  ทิศตะวันตก      ติดกับ  วัดเวฬุวัน (ไผ่ล้อม)
 พื้นที่ 
โรงเรียนตากพิทยาคม มีพื้นที่ทั้งสิ้น 78 ไร่ 3 งาน 73 ตารางวา แบ่งออกเป็น 2 บริเวณ ได้แก่
1. บริเวณที่ตั้งโรงเรียนตากพิทยาคม 64 ไร่ 2 งาน
2. บริเวณที่ตั้งบ้านพักข้าราชการครู (นิคมครู) พื้นที่ 14  ไร่ 1 งาน 73 ตารางวา
แหล่งที่มาข้อมูล : http://www.tps.ac.th

วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556

โครงงานบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง เรื่อง เมี่ยงคำเมืองตาก


ที่มาและความสำคัญ
            เมี่ยงคำเมืองตาก หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่าเมี่ยงจอมพล เป็นเมี่ยงที่มีลักษณะเด่นและมีส่วนประกอบของเมี่ยง เช่น มะพร้าวขูด ข้าวตากแห้งทอด ถั่วลิสงคั่ว ข้าวเกรียบชุบน้ำให้อ่อนตัว ฯลฯ ซึ่งนิยมรับประทานเป็นของว่าง และยังเป็นอาหารพื้นบ้านของชาวจังหวัดตากที่มีชื่อเสียง แต่ปัจจุบันพบว่า เมี่ยงคำเมืองตาก หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่าเมี่ยงจอมพลนั้น หาทานได้ยาก เพราะเนื่องจากประชาชนทั่วไปนิยมหันมารับประทานอาหารอื่นแทน
                คณะผู้จัดทำจึงทำการศึกษาอุปกรณ์ ส่วนประกอบ ตลอดจนการทำเมี่ยงคำเมืองตาก และนำเสนอ เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเมี่ยงคำเมืองตาก
                การนำเสนอ และเผยแพร่ข้อมูล เกี่ยวกับเมี่ยงคำเมืองตากนั้น คณะผู้จัดทำได้เผยแพร่ลงในสื่อออนไลน์ เช่น facebook เว็บไซต์ และบล็อกเกอร์ เพื่อเป็นการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ และเพื่อเป็นการอนุรักษ์อาหารพื้นบ้านของชาวจังหวัดตากใหเอยู่คู่กับชาวจังหวัดตาก ตลอดไป

วัตถุประสงค์
           1. เพื่อศึกษาวิธีการทำเมี่ยงคำ
           2. เพื่อใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอข้อมูล เรื่อง เมี่ยงคำเมืองตาก
           3. เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นของจังหวัดตาก และเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่น
ของจังหวัดตาก  ให้มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น
 
ประโยชน์ที่ได้รับ
              1.ได้รู้เกี่ยวกับวิธีการทำเมี่ยงคำซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านของชาวจังหวัดตาก
              2 . ได้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอข้อมูลเรื่องเมี่ยงคำเมืองตาก
              3.  ได้อนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นของจังหวัดตาก และได้เผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวจังหวัดตาก  และได้เผยแพร่วัฒนธรรมของจังหวัดตากให้มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น


วิธีดำเนินงาน
1.กำหนดหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา 

2.วางแผนการดำเนินงาน

3.หาข้อมูล และรวบรวมข้อมูล

4.ปฏิบัติงาน (ศึกษาการทำเมี่ยงคำเมืองตาก)

5.ตรวจสอบ

6.นำเสนอข้อมูล 


ผลการศึกษา

               ก่อนโพสต์ มียอดผู้เข้าชม จำนวน 2447 คน หลังการโพสต์ มีผู้เข้าชม 2534 คน ซึ่งเดิมขึ้นจากเดิม 107 คน และมีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวน 1 คน 

สรุปผลการศึกษา
ในการจัดทำโครงงานเรื่องเมี่ยงคำเมืองตากเป็นไปตามวัตถุประสงค์ และทำให้คณะผู้จัดทำได้ทราบเกี่ยวกับวิธีการทำเมี่ยงคำซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านของชาวจังหวัดตาก ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีในการนำเสนอข้อมูล และเป็นการอนุรักษ์ เผยแพร่วัฒนธรรมพื้นบ้านของชาวจังหวัดตากให้มีชื่อเสียงมากขึ้น 

ข้อเสนอแนะ
                การทำโครงงานเรื่อง เมี่ยงคำเมืองตาก มีข้อเสนอแนะดังนี้
1.             ควรเพิ่มเวลาการทำโครงงาน

แหล่งที่มารูปภาพ http://www.kruaklaibaan.com